ศาสนาคริสต์
ศาสนาคริสต์ (อังกฤษ: Christianity) ราชบัณฑิตยสถานเรียกว่า คริสต์ศาสนา เป็นศาสนาประเภทเอกเทวนิยม ที่มีพื้นฐานมาจากชีวิตและการสอนของพระเยซูตามที่ปรากฏในพระวรสารในสารบบ (canonical gospel) และงานเขียนพันธสัญญาใหม่อื่น ๆ ผู้นับถือศาสนาคริสต์เรียกว่าคริสต์ศาสนิกชนหรือคริสตชน
คริสตชนเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระบุตรพระเป็นเจ้า และเป็นพระเจ้าผู้มาบังเกิดเป็นมนุษย์และเป็นพระผู้ช่วยให้รอด ด้วยเหตุนี้ คริสตชนจึงมักเรียกพระเยซูว่า "พระคริสต์" หรือ "พระเมสสิยาห์" ศาสนาคริสต์ปัจจุบันแบ่งเป็นสามนิกายใหญ่ คือ โรมันคาทอลิก อีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ และโปรเตสแตนต์ ซึ่งยังแบ่งนิกายย่อยได้อีกหลายนิกาย เขตอัครบิดรโรมันคาทอลิกและออร์ทอดอกซ์แยกออกจากกันในช่วงศาสนเภทตะวันออก-ตะวันตก (East–West Schism) ใน ค.ศ. 1054 และนิกายโปรแตสแตนต์เกิดขึ้นหลังการปฏิรูปศาสนาในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ซึ่งแยกตัวออกจากคริสตจักรโรมันคาทอลิก
ศาสนาคริสต์ในช่วงแรกถือเป็นนิกายหนึ่งของศาสนายูดาห์เมื่อกลางคริสต์ศตวรรษที่ 1 โดยถือกำเนิดขึ้นในชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางตะวันออกของตะวันออกกลาง (ปัจจุบัน คือ อิสราเอลและปาเลสไตน์) ไม่นานก็แผ่ขยายไปยังซีเรีย เมโสโปเตเมีย เอเชียไมเนอร์ และอียิปต์ ศาสนาคริสต์มีขนาดและอิทธิพลเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ทศวรรษ และจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 4 ได้กลายมาเป็นศาสนาประจำชาติจักรวรรดิโรมัน ระหว่างสมัยกลาง ดินแดนยุโรปที่เหลือส่วนมากรับศาสนาคริสต์แล้ว แต่บางภูมิภาค เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ เอธิโอเปีย และบางส่วนของอินเดีย คริสตชนยังถือเป็นศาสนิกชนกลุ่มน้อย หลังยุคสำรวจศาสนาคริสต์ได้แผ่ขยายไปยังทวีปอเมริกา ออสตราเลเซีย แอฟริกาซับสะฮารา และส่วนที่เหลือของโลกผ่านงานมิชชันนารีและการล่าอาณานิคม
คริสต์ศาสนิกชนเชื่อว่าพระเยซูคือพระเมสสิยาห์ที่พยากรณ์ไว้ในคัมภีร์ฮีบรู ซึ่งในศาสนาคริสต์เรียก "พันธสัญญาเดิม" พื้นฐานเทววิทยาศาสนาคริสต์นั้นแสดงออกมาในหลักข้อเชื่อสากล (ecumenical creed) ที่มีมาตั้งแต่ศาสนาคริสต์ยุคแรก และเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในบรรดาคริสต์ศาสนิกชน การประกาศความเชื่อนี้มีอยู่ว่า พระเยซูทรงรับพระทรมาน สิ้นพระชนม์ และถูกฝังไว้ ก่อนจะคืนพระชนม์เพื่อให้ชีวิตนิรันดร์แก่ผู้ที่เชื่อในพระองค์และไว้วางใจว่าพระองค์เป็นผู้ไถ่บาปพวกเขายังเชื่ออีกว่าพระเยซูเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ ที่ซึ่งพระองค์ทรงควบคุมและปกครองรวมกับพระเจ้าพระบิดา นิกายส่วนใหญ่สอนว่าพระเยซูจะกลับมาพิพากษามนุษย์ทุกคน ทั้งคนเป็นและคนตาย และให้ชีวิตนิรันดร์แก่สาวกของพระองค์ พระองค์ทรงถูกมองว่าเป็นแบบอย่างของชีวิตอันดีงาม และเป็นทั้งผู้เผยพระวจนะและเป็นพระเจ้าลงมารับสภาพมนุษย์
ช่วงต้นคริสต์ศตรวรรษที่ 21 ศาสนาคริสต์มีศาสนิกชนประมาณ 2.2 พันล้านคนทั่วโลก คิดเป็นหนึ่งในสี่ถึงหนึ่งในสามของประชากรโลก และเป็นศาสนาที่มีผู้นับถือมากที่สุดในโลก ทั้งยังเป็นศาสนาประจำชาติในหลายประเทศ
นิกาย
มนุษย์ได้แบ่งศาสนาคริสต์ให้เป็นนิกายต่างๆ ซึ่งแปรไปตามพื้นที่, วัฒนธรรม และความคิดของตน นิกายที่สำคัญมี 3 นิกายคือ
- โรมันคาทอลิก แปลว่าสากล เป็นนิกายดั้งเดิมที่ยึดมั่นในหลักคำสอนของพระเยซูคริสต์เคารพพระนางมารีย์และนักบุญต่าง ๆ ภายในโบสถ์ของนิกายนี้จะมีรูปเคารพพระเยซูคริสต์ พระแม่มารีย์ และนักบุญต่างๆ มีศูนย์กลางการปกครองอยู่ที่สันตะสำนัก มีพระสันตะปาปาเป็นประมุข โดยสืบทอดมาตั้งแต่สมัยอัครทูตกลุ่มแรก โดยถือว่านักบุญซีโมนเปโตรคือพระสันตะปาปาพระองค์แรก ซึ่งได้รับการยินยอมจากพระเจ้าให้ปกครองศาสนจักรทั้งมวลและสืบทอดมาถึงสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส องค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่ 266 คาทอลิกมีนักบวชเรียกว่าบาทหลวง และผู้อุทิศตนทำงานให้ศาสนจักรถ้าเป็นชายเรียกว่าภราดา (brother) หญิงเรียกว่าภคินี (sister) ชาวไทยจะเรียกผู้นับถือนิกายนี้ว่า "คริสตัง"ตามเสียงอ่านภาษาโปรตุเกสผู้เผยแพร่ยุคแรก ๆ มีผู้นับถือนิกายนี้ประมาณ 1000 ล้านคน นิกายนี้ถือว่าบาทหลวงเป็นสื่อกลางระหว่างพระเจ้าและมนุษย์ (ตัวแทนพระเจ้าในโลกนี้)
- อีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ แปลว่าถูกต้อง นับถือในประเทศทางฝั่งยุโรปตะวันออก เช่น กรีซ รัสเซีย โดยแยกตัวออกไปจากศาสนาคริสต์ตะวันตก เพราะไม่อยากอยู่ภายใต้อำนาจของสันตะปาปาซึ่งมีอำนาจมากสูงกว่ากษัตริย์ (คือมีอำนาจแต่งตั้งและถอดถอนกษัตริย์ได้) ในสมัยนั้น โดยที่มิได้เปลี่ยนแปลงข้อความเชื่อ ข้อความเชื่อของนิกายออทอดอกซ์เหมือนกับข้อความเชื่อของนิกายโรมันคาทอลิก แต่ละประเทศมีอัครบิดรเป็นประมุขของคริสตจักร นิกายออทอดอกซ์ยังมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าศาสนาคริสต์ตะวันออก มีศาสนิกชนรวมกันประมาณ 500 ล้านคน
- โปรเตสแตนต์ แปลว่าคัดค้าน แยกตัวมาจากนิกายโรมันคาทอลิกในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 เป็นนิกายที่ถือว่าศรัทธาของแต่ละคนที่มีต่อพระเจ้าสำคัญกว่าพิธีกรรม ซึ่งยังแตกย่อยออกเป็นหลายร้อยคณะ เนื่องจากมีความเห็นแตกต่างเกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิล และการปฏิบัติในพิธีกรรม นิกายนี้ไม่มีนักบวชเชื่อว่าทุกคนสามารถเข้าถึงพระเจ้าได้โดยมิต้องอาศัยบาทหลวง และถือว่าพระเยซูได้ทรงไถ่บาปแก่ศาสนิกทุกคนไปเมื่อถูกตรึงกางเขนแล้ว นิกายนี้มีเพียงไม้กางเขนเป็นเครื่องหมายแห่งศาสนาเท่านั้น มีผู้นับถือรวมกันทุกนิกายย่อยประมาณ 500 ล้านคน
พิธีกรรมสำคัญในศาสนาคริสต์
พิธีกรรมสำคัญในศาสนานี้เรียกว่า "พิธีศักดิ์สิทธิ์" มีดังนี้
- พิธีบัพติศมาหรือศีลล้างบาป เป็นพิธีแรกที่คริสตชนต้องรับ โดยบาทหลวงจะใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์เทลงบนศีรษะพร้อมเจิมน้ำมันคริสมาที่หน้าผาก
- พิธีมหาสนิทศักดิ์สิทธิ์หรือศีลมหาสนิท เป็นพิธีกรรมรับศีลโดยรับขนมปังและเหล้าองุ่นมารับประทาน โดยความเชื่อว่าพระกายและพระโลหิตของพระเยซู
- ศีลอภัยบาป เป็นการสารภาพบาปกับพระเจ้าโดยผ่านบาทหลวง บาทหลวงจะเป็นผู้ตักเตือนสั่งสอนไม่ให้ทำบาปนั้นอีก และทำการอภัยบาปให้ในนามพระเจ้า
- ศีลกำลัง เป็นพิธีรับศีลโดยการเจิมหน้าผาก เพื่อยืนยันความเชื่อว่าจะนับถือศาสนาคริสต์ตลอดไปและได้รับพระพรของพระจิต ทำให้เข้มแข็งในความเชื่อมากขึ้น
- ศีลสมรส เป็นพิธีประกอบการแต่งงาน โดยบาทหลวงเป็นพยาน เป็นการแสดงความสัมพันธ์ว่าจะรักกันจนกว่าชีวิตจะหาไม่
- ศีลอนุกรม เป็นพิธีสำหรับการบวชเป็นนักบวช ได้แก่ มุขนายก บาทหลวง และพันธบริกร
- ศีลเจิมคนไข้ เป็นพิธีเจิมคนไข้โดยบาทหลวงจะเจิมน้ำมันลงบนหน้าผากและมือทั้งสองข้างของผู้ป่วย ให้ระลึกว่าพระเจ้าจะอยู่กับตนและให้พลังบรรเทาอาการเจ็บป่วย
สำหรับนิกายโรมันคาทอลิกและนิกายออร์ทอดอกซ์ จะมีพิธีกรรมทั้ง 7 พิธี แต่สำหรับนิกายโปรเตสแตนต์ จะมีเพียง 2 พิธี คือ พิธีบัพติศมาและพิธีมหาสนิทศักดิ์สิทธิ์
ศาสนาคริสต์ในประเทศไทย
สำหรับในประเทศไทยศาสนาคริสต์ได้เข้ามาก่อนเมื่อปี พ.ศ. 2052 คือเข้ามาพร้อมกับมิชชั่นนารีในสมัยอยุธยา โดยบาทหลวงคนแรกชื่อบาทหลวงพอล มิชชั่นนารีที่เป็นที่รู้จักคือหมอบรัดเลย์ผู้นำแท่นพิมพ์เข้ามาในประเทศไทยเป็นคนแรก, หมอแมคคอมิคผู้อุทิศตัวแก่ประชาชนในเมืองเชียงใหม่ และตั้งโรงพยาบาลแมคคอมิคในเมืองเชียงใหม่ ในปัจจุบัน คริสตจักรโปรเตสแตนท์ในไทยทั้งหมดมีจำนวนสมาชิกร่วมกันประมาณ หนึ่งแสนคนรวมกับคาทอลิกประมาณ 260,000 (ในปี พ.ศ. 2546) มีคริสตจักรต่างๆ เช่น คริสตจักรความหวัง,คริสตจักรใจสมาน, คริสตจักรสามัคคีธรรมกรุงเทพ, คริสตจักรร่มเย็น, คริสตจักรสืบสัมพันธวงศ์, คริสตจักรน้ำพระทัย, คริสตจักรสะพานเหลือง, คริสตจักรไมตรีจิต, คริสตจักรเทียนสั่ง, คริสตจักรอิมมานูเอล,คริสตจักรพระพร เป็นต้น ซึ่งการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในประเทศไทยสามารถตั้งศูนย์ศาสนาคริสต์ต่างๆในเชียงใหม่ได้ถึง 2000 กว่าศูนย์
ปัจจุบันประเทศไทย มีองค์กรคริสตจักรที่กรมการศาสนารับรองอยู่ 5 องค์กร คือ
- 1. สภาประมุขแห่งบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย ปกครองคริสตจักรโรมันคาทอลิกในประเทศไทย
- 2. สภาคริสตจักรในประเทศไทย ปกครองคณะเพรสไบทีเรียน คณะคริสเตียนเชิร์ช (ดิสไซเปิลส์ออฟไครส์) คณะลูเทอแรนเชิร์ชออฟอเมริกา ในประเทศไทย เป็นต้น
- 3. สหกิจคริสเตียนแห่งประเทศไทย ปกครองคณะคริสเตียนแอนด์มิชชันนารีอไลแอนส์ คณะเวิร์ลด์ไวด์อีแวนเจไลเซชั่นครูเสด ในประเทศไทย เป็นต้น
- 4. มูลนิธิคริสตจักรคณะแบ๊บติสต์ ปกครองคริสตจักรแบ๊บติสต์ในประเทศไทย
- 5. มูลนิธิคริสตจักรวันเสาร์แห่งประเทศไทย ปกครองคริสตจักรเซเว่นธ์เดย์แอ๊ดเวนตีส ในประเทศไทย
นอกจากนี้ยังมี
- สถาคริสตจักรลูเธอร์แรนในประเทศไทย ปกครองมิชชันนารีลูเทอแรนสายที่มาจากสแกนดิเนเวีย
- มูลนิธิคริสต์ศาสนิกชนดั้งเดิมออร์โธดอกซ์ในประเทศไทย ปกครองศาสนจักรออร์โธดอกซ์รัสเซียในประเทศไทย
- ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ประเทศไทย ปกครองศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายหรือมอรมอนในประเทศไทย
ศาสดาของศาสนาคริสต์ (พระเยชู)
สัญญาลักษณ์ ศาสนาคริสต์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น