วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556

ประเพณีผีตาโขน

ประเพณีผีตาโขน

                                           

 "ผีตาโขน" เป็นชื่อการละเล่นชนิดหนึ่ง โดยผู้เล่นทำรูปหน้ากาก มีลักษณะ น่าเกลียดน่ากลัว  มาสวมใส่และแต่งตัวมิดชิด  แล้วเข้าขบวนแห่แสดงท่าทางต่าง ๆ  ในระหว่างมีงานบุญตามประเพณีประจำปีของท้องถิ่นพื้นบ้าน  การเล่นผีตาโขน มีปรากฏในพื้นที่ต่าง ๆ  โดยเฉพาะที่อำเภอด่านซ้าย  จังหวัดเลย  การเล่นผีตาโขน มีเฉพาะงานบุญประเพณีที่ภาษาพื้นบ้านอำเภอด่านซ้าย เรียกว่า "บุญหลวง"

     "บุญหลวง" ที่วัดโพนชัย  อำเภอด่านซ้าย ในเดือนแปดข้างขึ้น นิยมทำ 3 วัน ดังกล่าว คือ วันแรกเป็นวันรวม (วันโฮม) เป็นวันที่ประชาชนตามตำบลหมู่บ้านต่าง ๆ  เดินทางมาร่วมงาน  ซึ่งปกติจะนำบั้งไฟมาด้วย  โดยเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 น. - 05.00 น. ทำพิธีอัญเชิญพระอุปคุตเข้ามาประดิษฐานอยู่ที่วัด  โดยอัญเชิยก้อนหิน จากแม่น้ำหมันใส่พาน  ซึ่งสมมติว่าเป็นพระอุปคุตนำมาประดิษฐานไว้ที่หออุปคุต ข้างศาลาโรงธรรม  ที่เตรียมจัดไว้แล้ว  เชื่อว่าจะสามารป้องกันเหตุเภทภัยต่าง ๆ  ที่จะเกิดในงานได้  เมื่อพิธีอัญเชิญพระอุปคุตเสร็จเรียบร้อยแล้ว  จะมีการละเล่นต่าง ๆ ทั้งกลางวันและกลางคืน  เช่น เล่นเซิ้งบั้งไฟ  ฟ้อนรำ  การแสดงผีตาโขน  การแสดงการเล่นต่าง ๆ เป็นต้น  วันที่สองของงาน  ตั้งแต่ตอนเช้าถึงบ่าย จะมีการละเล่นต่าง ๆ  เช่นวันก่อน

      เวลาประมาณ  14.00  น. - 15.00  น. จะมีพิธีแห่เวสสันดรและพระนางมัทรี เข้าเมือง โดยสมมติให้สถานที่นอกวัดในบริเวณหมู่บ้านเดิ่น ตำบลด่านซ้าย อำเภอด่านซ้าย เป็นที่พระเวสสันดรและพระนางมัทรีประทับอยู่ มีพิธีบายศรีสู่ขวัญ พระเวสสันดรกับพระนางมัทรี และอัญเชิญพระเวสสันดรและพระนางมัทรี เสร็จแล้ว มีขบวนแห่ง คือ ทำการแห่งเข้าวัด ซึ่งสมมติว่าเป็นเมือง โดยอัญเชิญพระพุทธรูป นำหน้า ถัดไปมีพระสงฆ์ 4 รูป นั่งบนแคร่ตามหลัง ต่อจากนั้น จึงเป็นขบวนแห่บั้งไฟ โดยเอาบั้งไฟมามัดรวมกันบนแคร่และมี "เจ้ากวน" นั่งบนบั้งไฟ มีขบวนการแสดง ผีตาโขน การละเล่นของประชาชนทั่วไป  โดยแห่รอบวัดสามรอบ นำพระพุทธรูป ไปประดิษฐานไว้ที่เดิม นิมนต์พระสงฆ์ลงจากแคร่ และเชิญเจ้ากวนลงจากบั้งไฟ เป็นเิสร็จพิธีแห่พระเวสสันดรและพระนางมัทรีเข้าเมือง ตอนเย็นมีการจุดบั้งไฟ (เจ้ากวน คือ ผู้ชายที่ทำหน้าที่ให้ดวงวิญญาณเจ้าในอดีตเข้าทรง ชาวบ้านส่วนมาก เรียกว่า เจ้าพ่อกวน)

ผีตาโขนเล็ก
ผีตาโขนใหญ่
ผีตาโขนเล็ก
ผีตาโขนใหญ่

        การเล่นผีตาโขน จะมีมาแต่เมื่อใดไม่ปรากฏ คงจะมีการเล่นตั้งแต่มี "บุญหลวง" ขึ้น และบุญหลวงซึ่งเป็นบุญพระเวสสันดรและบุญบั้งไฟรวมกันนี้ คงมีมาแต่โบราณ ตั้งแต่ตั้งเมืองด่านซ้ายขึ้น ซึ่งคงเป็นเวลาหลายร้อยปีมาแล้ว และอาจมีมาแต่ เมื่อพระพุทธศาสนาเผยแพร่ มายังประชาชนไทยในภูมิภาคนี้ตั้งแต่แรก
        เมื่อทราบกำหนดการจัดทำบุญหลวงแล้ว ชาวบ้านซึ่งอยู่บริเวณใกล้วัด ที่จะทำบุญหลวง จะเตรียมเครื่องแต่งกายผีตาโขนไว้ให้พร้อม ตามประเภท ของผีตาโขน ซึ่งผีตาโขนมี 2 จำพวก ได้แ่ก่ ผีตาโขนใหญ่และผีตาโขนเล็ก หรือผีตาโขนทั่วไป
       เมื่อเตรียมอุปกรณ์เกี่ยวกับผีตาโขนไว้ให้พร้อมล่วงหน้าแล้ว ในวันแรกของงาน ซึ่งเป็นวันรวมหรือวันโฮม ก่อนสว่าง ผีตาโขนเล็กทั้งหลาย จะไปรวมกัน ณ บ้านช่าง ที่ทำผีตาโขนใหญ่ และเมื่อทางวัดจัดทำพิธีแห่พระอุปคุตจากท่าน้ำมาประดิษฐาน ไว้ที่วัดแล้ว จะจัดขบวนแห่  โดยผีตาโขนใหญ่นำหน้าขบวน เมื่อพร้อมแล้ว ก็แ่ห่ไปยังบ้าน "เจ้ากวน"  โดยมีกลอง ฆ้อง ฉิ่ง ฉาบ เข้าขบวนแห่ไปด้วย เมื่อขบวน ผีตาโขนไปถึงบ้านเจ้ากวนแสดงการเล่นท่าต่าง ๆ  "เจ้ากวนไ จะออกมาต้อนรับ ขบวนผีตาโขนเลี้ยงเหล้ายาอาหารต่าง ๆ แก่ผู้ไปเยี่ยม ในขณะที่ขบวนผีตาโขน ไปเยี่ยมที่บ้าน "เจ้ากวน" นั้น จะมี "นางเทียม" หรือ "เจ้าแม่นางเทียม" (นางเทียม คือ ผู้หญิงที่ทำหน้าที่ให้วิญญาณเจ้าแม่ในอดีต ซึ่งประทับอยู่ ณ ศาลอารักษ์หลักเมือง อำเภอด่านซ้าย ที่เรียกว่า "หอหลวง" และ "หอน้อย" เข้าทรง) ไปร่วมการต้อนรับ พวกผีตาโขนด้วย เมื่อพวกผีตาโขนได้แสดงการเล่นรับประทานอาหารและเหล้า ได้เวลาอันสมควรแล้วจึงลา "เจ้ากวน" และ "นางเทียม" แห่ไปยังวัด เมื่อทำการแห่รอบวัดและแสดงการเล่นประมาณ 3 รอบ หรือตามอัธยาศัยแล้ว ขบวนผีตาโขนจะพากันแห่ไปตามละแวกบ้าน เพื่อแสดงการเล่นให้ชาวบ้านชม และขอเหล้าข้าวปลาอาหารจากชาวบ้านกิน ได้เวลาสมควรจะกลับมาที่วัด เพื่อแสดงการเล่น รอหยอกล้อผู้คนที่เดินทางมาร่วมงานจากหมู่บ้านต่าง ๆ  และหยอกล้อผู้หญิงหรือเด็ก ซึ่งพักอยู่ตามปะรำหรือบริเวณวัดด้วย ในการแห่ไปเยี่ยมตามละแวกบ้าน วันหนึ่ง ๆ  อาจไปหลายครั้ง และแยกเป็นหลายคณะ บางทีก็มีคณะเล่นเซิ้งบุญร่วมขบวนไปด้วย เพื่อเพิ่มความสนุกสนาน
 เมื่อชาวบ้านมาจากหมู่บ้านต่าง ๆ  เพื่อร่วมงาน จวนจะถึงบริเวณวัด พวกผีตาโขนเล็กจะคอยหยอกล้อ โดยเอาด้ามดาบหรือง้าวแหย่พวกผู้หญิงและเด็ก โดยเฉพาะสาว ๆ  เป็นที่สนุกสนานโดยทั่วกัน เมื่อเล่นกันเหนื่อยพอสมควรแล้ว ก็พากันไปพักผ่อน พอหายเหนื่อยแล้ว ก็กลับมาเล่นอีก จนกระทั่งถึงเย็น หรือค่ำ หรืออาจจะเล่นจนดึงหรือตลอดคืนก็ได้
     พอวันที่สองของงาน พวกผีตาโขนจะเร่ิมเล่นกันที่วัด และไปตามละแวกบ้านตั้งแต่เช้ามืด เมื่อถึงเวลาบ่าย บรรดาผีตาโขนทุกประเภท ตลอดจนผู้ร่วมงาน จะไปร่วมกัน ณ จุดที่อัญเชิญพระเวสสันดร และพระนางมัทรีเข้าเมือง คือบริเวณหมู่บ้านเดิ่น ตำบลด่านซ้าย อำเภอด่านซ้าย เมื่อทำพิธีอัญเชิญ และบายศรีสู่ขวัญพระเวสสันดรและพระนางมัทรีเสร็จ ก็ร่วมกันแห่พระเวสสันดรและพระนางมัทรีเข้าเมือง โดยแห่ไปยังวัดที่จัดงาน เมื่อแห่รอบบริเวณวัด 3 รอบ ก็เป็นอันเสร็จพิธีแห่พระเวสสันดรและพระนางมัทรี เข้าเมือง การแห่พระเวสสันดรและพระนางมัทรี เข้าเมืองนี้ นับเป็นการจัดขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่ มีคนไปร่วมขบวนแห่มากมาย และมีการแสดงการละเล่น อย่างครึกครื้น นับเป็นจุดสนุกสนานที่สุดของงาน รวมทั้งผีตาโขนก็ร่วมแสดงด้วย
ผีตาโขน
การละเล่นผีตาโขน จ. เลย

     ภายหลังการร่วมขบวนแห่ดังกล่าวแล้ว บรรดาผู้เล่น ผีตาโขน จะนำเครื่องเล่นผีตาโขน และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ประกอบการเล่นไปทิ้งที่ลำน้ำใกล้วัด หรือถอดกอง รวมกันไว้ที่นอกวัดแห่งใดแห่งหนึ่ง เพื่อให้หายเสนียด จัญไร นับเป็นการเสร็จการแสดงผีตาโขน ผู้สวมใส่เครื่องผีตาโขนมีเฉพาะผู้ชายเท่านั้น ไม่มีผู้หญิง สวมใส่และแสดงเลย อาจเป็นด้วยไม่เหมาะสม ที่เพศหญิง จะไปแสดง ส่วนงาน "บุญหลวง" เมื่อเสร็จจากการแห่ พระเวสสันดรและพระนางมัทรีเข้าเมืองแล้ว ตอนเย็นวันนั้นจะมีการจุดบั้งไฟ ในคืนที่สอง ตอนหัวค่ำ มีการฟังพระสวดพระพุทธมนต์ และฟังเทศน์เรื่อง พระมาลัยหมื่น พระมาลัยแสน จึงหยุดพัก พอย่างเข้าวันที่สามของงาน ราว 3 หรือ 4 นาฬิกา พระเทศน์สังกาสและเรื่องพระเวสสันดรตลอดวัน จะเทศน์จบทุกกัณฑ์และเสร็จพิธีก็ตกบ่ายหรือเย็น ของวันที่สามของงาน เป็นเสร็จพิธีงาน "บุญหลวง"
ผีตาโขน
การละเล่นผีตาโขน อ.ด่านซ้าย จ.เลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น